สวนจตุจักร

chatuchak Market 

chatuchak Market Once only popular among wholesalers and traders, Chatuchak Weekend Market has reached a landmark status as a must-visit place for tourists. Its sheer size and diverse collections of merchandise will bring any seasoned shoppers to their knees – this is where you can literally shop ‘till you drop’.

How to get there.

MRT subway

You can walk to MRT subway Samyan station 5 minutes from hotel and take MRT subway go to Kamphang Phet station. The station inside Chatuchak Market.

Time : 30 minutes 

BTS sky train

If you want to go there by BTS sky train you can take MRT subway go to Silom station and then change to BTS sky train at Saladang station then take BTS sky train go to Chatuchak station. It's inconvenient like a MRT subway. 

Time : 25-30 minutes

Boat

-

Taxi 

Taxi is easy way to go there. About 100-150 bath (Depend on traffic)

Time : 20-30 minutes (Depend on traffic)

The rich man toy

              วงร็อคกลิ่นไทยๆ ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ชื่อวง มาจากสโลแกน ของรถ โฟล์ค สวาเก้น ที่แจ๊ป นักร้องนำเคยขับ มีซิงเกิลที่ร้องตามได้ทั้งประเทศเพียงสองอัลบั้ม พวกเขาก้าวสู่ตำแหน่ง วงอินดี้แถวหน้าอย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยเพลงฮิตหลายต่อหลายเพลง ดนตรีร็อคไทยแสนสะเดิด และการแสดงสดที่เร้าใจทั้งเสียงร้องและการเล่นดนตรี ถึงวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักพวกเขาอีกแล้ว สร้างชื่อจากอัลบั้ม "แดนสวรรค์คอยอยู่" อีกหนึ่งอัลบั้มที่ลงตัวทั้งความสดใหม่ แบบวงอินดี้ร็อค และ เสน่ห์ของเพลงโจ๊ะแบบไทย ด้วยซิงเกิ้ล ที่แจ้งเกิดแล้ว แจ้งเกิดอีก ไม่ว่าจะเป็น "มนต์รักยาเสน่ห์" "สะดุดรัก" พวกเขาเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีที่มาเต็ม ทั้งเพลง การร้อง การเล่น และการแต่งตัวที่ควบคุมมู้ดและโทน ให้เหมือนกันและดูเป็นทีม จนง่ายต่อการจดจำคาแรคเตอร์
ในปี 2009 พวกเขากลับตอกย้ำการเป็นขวัญใจเด็กแนวอีกครั้ง ด้วยอัลบั้ม "ลำนำสะดิ้งเลิฟยู" ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ สไตล์แก๊งค์สเตอร์นักเลงไทยโบราณและเป็นอัลบั้มที่บรรจุเพลงสุดโดน มากมาย มหาศาล ตั้งแต่ ซิงเกิลแรก "กระเป๋าแบนแฟนยิ้ม" ด้วยเนื้อหาที่โดนใจ แฝงนัยยะต่อต้านการบูชาเงินเป็นพระเจ้า ทำให้เพียงครั้งแรกที่ปล่อยเพลงนี้ออกไป ก็พุ่งพรวดติดชาร์ตแทบจะไม่ทัน ในเวลาไม่นาน วัยรุ่นทั้งสวนจตุจักรก็แต่งตัวตามสมาชิกในวงแทบเดินชนกันตาย จากนั้นมาดูเหมือนว่าอะไรก็ฉุดพวกเขาไม่อยู่ซะแล้ว เมื่อ ซิงเกิล "อ๊อด อ๊อด" ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวัฒนธรรม การสร้างกลุ่มคำฮิตติดหู คำว่า "อ๊อดอ๊อด" ถูกนำไปร้องในทุกที่ และคนทุกกลุ่มในประเทศ ตั้งแต่เด็กที่เพิ่งหัดพูดได้ คนงานก่อสร้าง ไปจนถึงนักเรียนมหาวิทยาลัย วงดนตรีในผับทุกวงต้องเล่นเพลงของพวกเขา และต้องเลียนแบบเสียงร้องแผด โหยหวน อันเป็นเอกลักษณ์ของแจ๊บให้เหมือนที่สุด

      ด้วยความสำเร็จครั้งนี้ พวกเขาจึงได้เป็นพรีเซนเตอร์สินค้ามากมาย และมีโอกาสทำเพลงประกอบภาพยนตร์ และเพลงโฆษณาอีกหลายชิ้น แต่ทุกคนในวงก็ยังคงความเป็นทีมเวิร์คอย่างสามัคคี ทั้งการแต่งตัว และการแต่งเพลง  วันนี้ ปี 2012พวกเขาค้นพบส่วนผสมใหม่ จนบันดาลใจให้มาทำอัลบั้มล่าสุด ที่พวกเขาบอกว่า กำลังออกจากป่ามาสู่เมืองมากขึ้น ผลจะออกมาเป็นอย่างไร อยู่ที่หูของคุณเท่านั้น ที่จะ

ญารินดา บุนนาค

ญารินดา บุนนาค 

 

                   ญารินดา บุนนาค (ชื่อเล่น นินา) เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 เป็นนักร้องหญิงชาวไทย ศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย และต่อระดับมัธยมที่โรงเรียนประจำในประเทศอังกฤษ จากนั้นจึงมีผลงานเพลงอัลบั้มแรกกับสังกัดแกรมมี่ เมื่อปี 2544 ด้วยภาพลักษณ์สาวผมสีชมพู มีเพลงโด่งดังและสร้างชื่อเสียงให้เธอคือเพลง "แค่ได้คิดถึง" ซึ่งประพันธ์โดย นิ่ม สีฟ้าหลังจากออกอัลบั้มแรก เธอได้กลับไปศึกษาต่อ ณ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ประเทศสหรัฐอเมริกาและจบการศึกษาด้วยดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง รับเหรียญรางวัลเฮนรีอดัมส์จากสถาบันสถาปนิกอเมริกัน
ญารินดาได้กลับมาเป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชา ศิลปะนิยมเพื่อการสื่อสารที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงประกอบอาชีพเป็นสถาปนิกเต็มเวลาใน บริษัท ดวงฤทธิ์ บุนนาค จำกัด ตั้งแต่ปลายปี 2547 หลังจากนั้นเธอก็ได้ออกอัลบั้ม EP: High on Dreams และ 121 Thurston ในปี 2548 โดยมารับบทเป็นทั้งนักแต่งเพลง นักดนตรี โปรดิวเซอร์ และจัดจำหน่าย ด้วยตัวเอง และกับเพื่อนๆในนามวงทรัยทูบีไนซ์ ในปี 2549 ญารินดาออกอัลบั้มเต็มกับบริษัทสมอลล์รูม โดยยังคงเป็นโปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลงให้กับอัลบั้มของตัวเอง พร้อมทั้งยังชักชวนเพื่อนนักดนตรีอีกหลายท่านมาช่วยเรียบเรียงและแต่งเพลงในอัลบั้มนี้ โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่าYarinda & Friends: Try to be Nice และทำงานเป็นอาจารย์พิเศษที่ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ญารินดาออกอัลบั้มในปี 2552 ชื่อ Schoolsซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลศิลปินหญิงเดี่ยวยอดเยี่ยม จากคมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 7^[1] และสีสันอะวอร์ดส์ ครั้งที่ 22 ประจำปี 2552
ในปี พ.ศ. 2553 เธอแสดงในหนังฟอร์มใหญ่ ซูเปอร์ฮีโร่ฉบับไทย เรื่องอินทรีแดง

Polycat

Polycat

                              

          เกิดจากการรวมตัวกันตั้งวงเล่นดนตรี โดยเริ่มจาก “ผา” และ”นะ” ที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้วยกัน ก่อตั้งวงดนตรีขึ้นมา ใช้ชื่อวงว่า “Ska Rangers” วงดนตรีแนวเร็กเก้ สกา มี ”นะ” เป็นนักร้องนำ และกีต้าร์ “ผา” และ “โต้ง” เล่นเครื่องเป่า โดยได้ “ดอย” และ”เพียว” เพื่อนจากมหาวิทยาลัยพายัพ มาตีกลอง และเล่นเบสให้ พวกเค้าเดินสายเล่นดนตรีตามผับต่างๆในจังหวัดเชียงใหม่เป็นเวลา 3 ปี ก็ฟลุ๊คมากๆที่ได้มีโอกาสเข้าไปแคสหนัง “แฮงค์โอเวอร์ ภาค 2” และเค้าเลือกให้เล่นหน่อยนึงโดยเป็นฉากแต่งงาน ที่มีพวกเค้าบรรเลงเพลง “I RAN” ของศิลปิน “A Flock of Seagulls” ทำให้พวกเค้าได้รู้จักกับแนวดนตรีที่เรียกว่า “นิวเวฟ” ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเครื่องสังเคราะห์เสียง (ซินธิไซเซอร์) จึงยึดเป็นแนวทางใหม่ของวง และได้มีการผสมผสานเครื่องเป่าเข้าไปด้วยจึงเกิดแนวดนตรีแนวใหม่ที่เรียกว่า “ซินธ์ ป็อป หรือ อินดี้ แดนซ์” พร้อมกับชื่อวงใหม่ในนาม Polycat (โพลีแคท) 

                  

สมาชิกประกอบด้วยดอย – กวีวิชย์ ไชยแก้ว (กลอง)ผา – พงศธร สวัสดิ์ชัชวาล (ซินธิไซเซอร์ / แซกโซโฟน / ร้องประสาน)นะ – รัตน จันทร์ประสิทธิ์ (ร้องนำ และกีต้าร์)เพียว – เพียว วาตานาเบะ (เบส / ซินธิไซเซอร์)โต้ง – พลากร กันจิน (ซินธิไซเซอร์ / ทรัมเป็ต)

                          

Penguin Villa

Penguin Villa

                  

               เจ เริ่มเข้าสู่วงการดนตรีในขณะที่เขากำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ด้วยการเป็นมือกีต้าร์ของวง พราว หลังจากนั้น เจ เริ่มงานกับค่ายเพลงสมอลล์รูม จากการทำเพลงประกอบโฆษณามากมายหลายชิ้น เพลงที่พอจะคุ้นหูกันบ้างก็อย่าง Happy D-Prompt , Heineken, Hutch, PCT, Scott เป็นต้น
เมื่อทางค่ายเพลงสมอลล์รูมออกอัลบั้มรวมเพลงของค่ายในอัลบั้ม "What happens in this smallroom (smallroom001)" เจ ได้มีส่วนร่วมในการผลิต และในอัลบั้มนี้เองเขาได้ทำเพลงในนามของเพนกวินวิลล่า (Penguin Villa) ขึ้น โดยทำเพลง "ใครจะรู้" บรรจุในอัลบั้มรวมเพลงนี้
ที่มาของชื่อเพนกวินวิลล่า (Penguin Villa) เกิดจากตอนที่ เจ เป็นเด็กเล่นเกมกับเพื่อน ซึ่งเป็นเกมที่ใช้ตัวละครในเกมเป็นนก และนกตัวที่ เจ เล่นแทนตัวคือ เพนกวิน และคนที่ให้เล่มเกมนี้คือแม่ของเจ และแม่เคยบอกว่า "นกเพนกวินมันเหมือนเจเลยนะ มันช้าๆ อ้วนๆ" ด้วยความที่ตอนเด็กนั้น เจ รูปร่างอ้วน ส่วนคำว่า"วิลล่า" มาจากการ์ตูนเรื่อง ด็อกเตอร์สลัมกับหนูน้อยอาราเร่ ซึ่งในเนื้อเรื่องในการ์ตูนจะเป็นเรื่องราวในหมู่บ้านเพนกวิน เจ ชอบชื่อนี้จึงนำมาใช้เป็นชื่อเพนกวินวิลล่า
เมื่อมีการทำอัลบั้มรวมเพลงของค่ายในชุดที่สองซึ่งชื่อ "songs from the audience (smallroom002)" นอกจากเขาจะได้ทำเพลง " เพลงในใจ" ในชื่อเพนกวินวิลล่าแล้ว เขายังได้เริ่มงานโปรดิวซ์และโคโปรดิวซ์ให้กับวงอื่นๆ อีกด้วย เช่น อัลบั้ม Pastel Mood ของ อาร์มแชร์ อัลบั้ม "Paradise" ของวง ไคโจบราเธอร์ปลายปีพ.ศ. 2545 เขาได้ร่วมงานกับนักเขียนรางวัลซีไรท์อย่าง ปราบดา หยุ่น ในนาม บัวหิมะ และเป็นอัลบั้มประกอบ นวนิยายเรื่องแรกของปราบดา ในชื่อชุด "ชิท-แตก" นอกจากผลงานเพลงโฆษณา และเพลงในอัลบั้มต่างๆ แล้ว เจ ยังได้รับเลือกจากผู้กำกับภาพยนตร์อย่าง เป็นเอก รัตนเรือง ให้ทำเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง "เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล" หรือ "Last life in the universe"
และผลงานล่าสุดของ เจ ภายใต้ ชื่อเพนกวินวิลล่าสำหรับอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกได้วางแผงเมื่อปลายปี พ.ศ. 2547 ที่ผ่านมา โดยใช้ชื่อชุดว่า "ออกไปข้างนอก"

                          

Spoonfulz

               

                    

   วงหน้าใหม่ของสมอลล์รูมที่ฝีมือจัดจ้านไม่แพ้วงหน้าเก่า มาพร้อมกับเพลงสไตล์ Pop-Rock ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากส่วนผสมของแนวคิดที่แตกต่างหลากหลายของสมาชิกวงทุกคน ทำให้ทุกแทร็คของ Spoonfulz เป็นเพลงที่น่าสนใจ ไม่ว่าความหมายของเนื้อ หรือกลิ่นอายของดนตรีแนว Funk ที่ถูกจับมาบรรเลงร่วมกับกีตาร์สไตล์ Blues ที่พวกเขาหลงใหล จนกลายออกมาเป็นเพลง Pop-Rock ที่มีมนต์เสน่ห์ สนุก แต่ฟังสบายเต็มไปด้วยความไพเราะอย่างลงตัว

                              

         การเดินทางของวง Spoonfulz เริ่มต้นเมื่อ เซฟ นักร้องนำที่มีความฝันว่าอยากเป็นนักดนตรี เขาเริ่มหัดกีตาร์ตั้งแต่อายุ 13 เพื่อค้นหาแนวดนตรีที่ชื่นชอบจนกระทั่งได้ตั้งวง Spoonfulz ขึ้น (ที่มาของชื่อวง เซฟเล่าว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง Spoonful ของ Willie Dixon) จากนั้น Spoonful ก็วงเริ่มเดินหน้าเข้าประกวดตามงานประกวดต่างๆ จนในที่สุดพวกเขาก็สามารถคว้ารางวัลที่หนึ่งจากการประกวด True Audition Love Is จนได้ทำเพลงซิงเกิลแรกออกมา

    3 หนุ่ม เซฟ มือกีตาร์และร้องนำ, ตูน มือเบส, อาร์ท มือกลอง ในนามวง Spoonfulz ได้ฝากผลงานที่ใช้ชื่อว่า “ไม่ว่าที่ใด” ซึ่งเป็นเพลง Pop-Rockที่มีเอกลักษณ์ในด้านเสียงร้อง กระทั่งในภาคดนตรีก็ยังโดดเด่น (เรียกว่าครบเครื่อง!) และเพลงนี้นี่เองที่เป็นซิงเกิ้ลแรกอันเป็นแทร็คเปิดตัวของพวกเขาในวงการดนตรีในปี 2553 ซึ่งแน่นอนว่า เพลงเพลงนี้ก็เป็น เซฟ ที่เป็นคนเขียนทั้งเนื้อร้องและทำนอง

                      

         ในปี 2011 Spoonfulz ได้ ดึงเอา ต๊อก มือกีต้าร์มาร่วมเป็นหนึ่งสมาชิกของวง เพื่อให้ดนตรีมีลูกเล่นและสีสันมากขึ้น และในปีเดียวกันนั้นพวกเขาก็ก้าวมาเป็นน้องใหม่ของค่าย Smallroom ค่ายเพลงห้องเล็กแต่ขนาดกำลังดี ยิ่งทำให้พวกเขาต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อให้อัลบั้มใหม่ที่กำลังจะคลอดใน ปี 2012 ออกมาให้ยิ่งใหญ่สมการรอคอย

                      

         และในปี 2012 พวกเขาพร้อมแล้วกับบ้านหลังใหม่ และอัลบั้มเต็มสูบชุดแรกของวง ที่จะทำให้ทุกคนได้เต็มอิ่มกับบทเพลงที่ไพเราะ สนุก และจะจับใจทุกคนจนหยุดฟังไม่ไหว

                     

Fat Live Smallroom

วันนี้ขอนอกเรื่องไปที่งานคอนเสิร์ตดีๆอีกหนึ่งงาน ของค่ายสมอลรูมร่วมมือกับแฟต เรดิโอ จัดขึ้น

แฟต เรดิโอ พร้อมเสิร์ฟความมันส์แบบเต็มสูบ 17 คอนเสิร์ตใหญ่ในงานเดียว!!! กับ Fat Live Smallroom (แฟต เรดิโอ)

          เอาใจคอเพลงเด็กแนวรับต้นปี 56 ด้วย 17 คอนเสิร์ตใหญ่ในงานเดียว!! กับ แฟต ไลฟ์ สมอลรูม (Fat Live Smallroom) จัดโดย คลื่น 98 แฟต เรดิโอ ร่วมกับ ซูมเมอร์เอ็กซ์ ไลฟ์อันบล็อค มันส์….นอกกรอบจากฮอนด้า โดยมี จ๋อง พงศ์นรินทร์ อุลิศ บอสใหญ่แห่ง แฟต เรดิโอ พร้อมด้วย ดีเจ แฟต อาทิ ดีเจเปอร์ สุวิกรม, ดีเจน็อต ยุทธนา, ดีเจปาล์ม ฐิตวินน์, ดีเจแม็กซ์ อาสนัย ฯลฯ ร่วมด้วยเหล่าศิลปินจากค่ายสมอลรูมไม่ว่าจะเป็น แทตทูคัลเลอร์, เดอะ ริชแมนทอย, เสลอ, ญารินดา, ซุปเปอร์เบเกอร์, เกรซซี่ คาเฟ่, เดอะ จักส์, เดอะ เยอร์ส, โพลีแคท, โลโมโซนิค, เลม่อนซุป, สปูนฟูล, จีน กษิดิศ, บาร์บี้, สมเกียรติ และ ซัมเมอร์ สต็อป ร่วมโชว์เรียกน้ำย่อยก่อนเจอกันวันจริง ณ Hard Rock Café (สยาม สแควร์)

          งานนี้ จ๋อง พงศ์นรินทร์ อุลิศ ในฐานะผู้จัดงาน ได้กล่าวว่า "สำหรับคอนเสิร์ต แฟต ไลฟ์ เป็นความมันส์รับต้นปีเพื่อเอาใจแฟนแฟต โดยปีนี้ได้จับมือกับค่าย สมอลรูม เรียกได้ว่ามากันหมดค่ายเลยทีเดียว กับ 17 ศิลปิน ไม่ว่าจะเป็น แทตทูคัลเลอร์, เดอะ ริชแมนทอย, เสลอ, ญารินดา, ซูเปอร์เบเกอร์, เพนกวินวิลล่า, เกรซซี่ คาเฟ่, เดอะ จักส์,เดอะ เยอร์ส, โพลีแคท, โลโมโซนิค, เลม่อนซุป, สปูนฟูล, จีน กษิดิศ, บาร์บี้, สมเกียรติ และ ซัมเมอร์ สต็อป ที่จะมาระเบิดความมันส์แบบเต็มเหนี่ยวกว่า 4 ชั่วโมง กว่า 50 บทเพลง!!! ที่คุณสามารถร้อง และโยกตามได้ทุกเพลง รวมไปถึงเรื่องของโปรดักชั่นแน่นอนครับว่าระดับแฟตไลฟ์แล้วต้องไม่ธรรมดา มีแต่คำว่าตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมแน่นอนรับรองได้เลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังครับ"

          สำหรับ คอนเสิร์ต แฟต ไลฟ์ สมอลรูม (Fat Live Smallroom) จะมีขึ้น ในเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2556 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี เวลา 17.00 น. แฟนแฟตผู้ที่สนใจสามารถซื้อบัตรได้ที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา บัตรนั่งราคา 1,200 บาท แถมฟรีกระเป๋าแบนแฟนแฟตไลฟ์ (ลายโลโก้งาน) บัตรยืน 900 / 600 บาท พิเศษสุด!! กับโปรโลกแตกสำหรับบัตรยืนสามารถพาเพื่อนมาได้อีกหนึ่งคน รีบจับจองที่นั่งแล้วไปมันส์กันแบบเต็มสูบด้วยกันนะจ๊ะ!!

จัดรูปไปแบบเต็มๆๆ